วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

ภัยร้ายบนอินเทอร์เน็ต

1. หลีกเลี่ยงการพบคนแปลกหน้าทาง Internet – วัยรุ่นมักจะพูดคุยหรือหาเพื่อน มีสังคมของเขาโดยทำการพิมพ์ข้อความเสนทนาผ่านพวก Instant Messenger (IM หรือโปรแกรมสนทนา) สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาที่เราเห็นบ่อยๆ คือการนัดหมายพบปะกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ไม่ควรนัดพบเจอบุคคลแปลกหน้าในที่ลับตาคน หรือนัดไปกัน 2 ต่อ 2 ถ้าจะมีการพบเจอกันจริงๆ ควรพาเพื่อน หรือบุคคลที่สนิทไปด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกพาไปล่อลวง ข่มขืนหรือกระทำชำเรา
2. หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวเช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์มือถือจริงบนเว็บไซต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน (เว็บไซต์ที่ดีจะมีตัวช่วยในการปกปิดข้อมูลเหล่านี้ได้) – เพราะว่าการที่เราเข้าไปพูดคุยกับคนแปลกหน้านั้น หรือเว็บหาเพื่อน หาคู่ทั้งหลาย ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่เราจะให้ข้อมูลส่วนตัวเหล่านั้นไป เพราะเราเองไม่สามารถทราบได้เลยว่าเขามีความคิดอย่างไรกับเรา วันดีคืนดีคุณอาจจะได้รับโทรศัพท์ หรือ SMS ทั้งวันโดยที่นอกจากคุณจะรำคาญแล้ว บางทีอาจจะมีคนโทรมาว่ากล่าวตำหนิคุณเนื่องจากพวกโรคจิตเอาเบอร์โทรศัพท์ หรือชื่อเล่นของคุณที่คุณไปโพสต์ไว้ เอาไปโพสต์ต่อไว้ในกระทู้ก็เป็นได้
3. อย่าปล่อยให้บุตรหลานของท่านอยู่บนโลกของเกมส์ออนไลน์มากจนเกินไป – แท้ที่จริงแล้วเกมส์ที่ดีสามารถช่วยในการพัฒนาทักษะ ตรรกะ ไหวพริบ ปฏิภาณฯ แต่สิ่งที่แอบแฝงมากับเกมส์ออนไลน์สมัยนี้กลับกลายเป็น “ยาเสพติด” ทำนองที่ว่า ไม่ติดแต่ขาดไม่ได้ ถ้าความสามารถของตัวละครในเกมส์ไม่เพิ่ม วันนี้ไม่นอน (เสียทั้งสุขภาพกายและจิตใจ)

- เกมส์สมัยนี้มีทั้งเรื่องเพศที่แฝงมากับสื่อ ซึ่งโลกความจริงที่คุณและเขาเป็นไม่ได้ แต่โลกเสมือนจริงนั้นทำได้ ตัวตนแท้จริงของผู้เล่นเป็นเด็กผู้ชาย แต่อยากกลายเป็นผู้หญิงทำให้ความคิดของเด็กถูกสิ่งเร้าและอยากให้เกิดความ รู้สึกในการเบี่ยงแบนทางเพศ
- การซื้อขายของในโลกเสมือนจริง - การซื้อบัตรเติมเงินเพื่อแลกของหรือ Item ในเกมส์ที่มาในรูปแบบของการซื้อการ์ดตามร้านสะดวกซื้อ หรือผ่านโทรศัพท์มือถือในการเติมแต้ม ซึ่งโลกความจริงคุณกำลังเอาเงินไปแลกกับรหัส 0 กับ 1 เพื่อให้ได้ความรู้สึกว่า คุณแข็งแกร่งมากในเกมส์ แต่คุณกลับอ่อนแอมากในโลกความจริง พ่อแม่ควรอบรมดูแลให้เด็กได้เรียนรู้จักโลกความจริง โลกเสมือนจริง ให้เขาได้เข้าใจและแยกแยะได้ และเด็กบางคนไม่เข้าใจว่าเงินที่พ่อแม่หามาได้อย่างยากลำบากนั้นกำลังสูญไป กับความบันเทิงที่จับต้องไม่ได้
- เกมส์มีความทารุณโหดเหี้ยม ซึ่งไม่เหมาะสมกับเด็ก – การที่เด็กไม่บรรลุนิติภาวะ หรือเกมส์บางเกมส์ไม่เหมาะสำหรับอายุของเขา ผมแนะนำว่าท่านอย่าปล่อยให้เขาเล่น แม้ความรู้สึกของท่านจะคิดว่ามันไม่เสียหาย แต่เป็นเพราะว่าเกมส์ที่ยิงกันมีเลือดพุ่ง มีการทำร้ายร่างกายกัน สิ่งเหล่านี้เด็กสามารถรับ และซึมซับได้ง่ายอย่างมาก และส่งผลต่อความคิด การกระทำของเขาเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ บางทีเขาอาจจะหยิบมีดแทงใครซักคนด้วยความแค้นโดยที่เขาไม่รู้สึกผิดก็ได้
4. ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้บุตรหลานของคุณใช้เน็ตในที่ลับตาคน – บางครอบครัวเอาคอมพิวเตอร์ไว้ในห้องนอนของลูกๆ โดยที่ไม่ได้สอดส่องดูแล จึงมักจะเป็นข่าวที่ว่า มีนัดหมายกันออกไปและกระทำผิดทางเพศกัน บางรายที่พ่อแม่ซื้อกล้อง (Webcam) ให้ลูกก็มีข่าวถึงการโชว์เนื้อหนังผ่านทางกล้องและถูกบันทึกไปลงใน Internet และถูกข่มขู่กันก็มี หรือบางรายถูกล่อลวงหายไปจากบ้านจนพ่อแม่ต้องไปแจ้งความ หรือบางรายถูกข่มขู่ให้ทำผิดทางเพศก็มี อยากจะแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ พ่อแม่ควรจะสอดส่องดูแล ควรตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในที่ๆ ผู้ปกครองสามารถสอดส่องดูแลเขาได้ หรือควรจะตรวจเช็คประวัติการใช้งานของลูกคุณบ้าง คอยตักเตือนเขาเมื่อเข้าไปในเว็บที่ไม่เหมาะสม(พ่อแม่จำเป็นต้องเรียนรู้ เรื่องเทคโนโลยีให้เป็นและใช้เวลากับเขาด้วย)
5. ควรหลีกเลี่ยงในการโพสต์ด่าด้วยข้อความหยาบคาย เขียนข้อความที่ลบหลู่ในเรื่องของบุคคล ชาติ ศาสนา หรือพระมหากษัตริย์ หรือส่งต่ออีเมล์ที่มีเนื้อหาข้อความดังกล่าวข้างต้นไปยังผู้อื่นโดยขาด สำนึก และรับผิดชอบ – อย่างรูปที่ไม่เหมาะสม คลิ๊ปวีดีโอจากโทรศัพท์ การเขียนข้อความด่าทอเพื่อความสะใจ หรือคำติฉินนินทาผุ้อื่นนั้น สามารถเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้ (เพราะทุกๆ ข้อความที่คุณโพสต์จะมี IP Address ในการใช้งาน) และสิ่งที่เป็นเรื่องไม่ดีนั้นสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับการ แพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งคุณอาจจะเป็นชนวนหรือตัวแปรตัวนึงในการตัดสินและทำลายชีวิตคนอื่นให้พัง ได้เพียงแค่คลิ๊กเดียวเท่านั้น
6. หลีกเลี่ยงการใช้งาน ซอฟแวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ – หลายๆ คนอาจจะชอบใช้ซอฟแวร์ที่ผิดกฎหมาย บางคนก็ดาวโหลดเพลง หนัง ละคร โปรแกรม มาเพื่อใช้งาน แต่ถ้าทุกคนละเมิดลิขสิทธิ์หรือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ผมเชื่อได้เลยว่าการทุ่มเทเวลาของคนที่สร้างสรรค์ผลงานอาจจะกลายเป็นของราคา ถูกโดยการขาดจิตสำนึกของผู้ใช้งาน อย่าสร้างค่านิยมผิดๆ ที่ว่า ใช้ของ copy แล้วไม่เสียหาย เพราะใครๆ เขาก็ใช้กัน
7. หลีกเลี่ยงการเปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เว็บโป๊ เว็บที่มีภาพยั่วยวนทางเพศ เว็บไซต์ที่มีการดาวโหลดซอฟแวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ เว็บไซต์ที่สอนการโจรกรรมข้อมูลฯ เพราะเว็บไซต์เหล่านี้ตัวคุณเองอาจจะเป็นคนถูกโจรกรรมข้อมูลเสียงเอง หรือได้รับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาในเครื่อง อย่างเช่นไวรัส หรือหนอนคอมพิวเตอร์ (Worms) และสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือถ้าบุตรหลานของคุณใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ แล้วอยู่ดีๆ มีหน้าต่างที่เปิดขึ้นเองอัตโนมัติเป็นรูปที่ไม่พึงประสงค์ และพวกเขาเข้าไปคลิ๊ก อะไรจะเกิดขึ้น
8. ระวังอย่าหลงเชื่อคำโฆษณา หลวงลวง ต้มตุ๋น จากการซื้อขายสินค้าผ่านสื่อ Internet – เนื่องจากสินค้าที่คุณซื้ออาจจะเป็นของปลอม หรือของไม่ได้คุณภาพก็ได้ อย่าคิดแต่ได้ของถูก ใช้งานแบบว่าได้ผลทันตาเห็นแบบดื่มปุ๊บกินปั๊บคุณกลายเป็นยอดมนุษย์ พวกมิจฉาชีพส่วนใหญ่มักจะให้คุณโอนเงินไปก่อนเสมอ และลวงให้คุณกรอกที่อยู่ ทั้งๆ ที่คนเลวพวกนี้ไม่มีที่อยู่จริง บ้างก็จะปิดโทรศัพท์หนีหายหลังจากที่คุณโอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มี เรื่องของการซื้อขายของสินค้าควรศึกษาให้ดีถึงตัวเว็บไซต์ที่ทำการเปิดขาย ว่ามีคุณภาพหรือไม่ หรือคุณภาพของสินค้าเองก็ดี หรือเว็บไซต์นั้นๆ มีการจัดระดับความน่าเชื่อถือของผู้ขายสินค้าหรือไม่ มีที่อยู่ติดต่อที่สามารถตามผู้ซื้อได้ไหม
9. อย่าหลงเชื่อจดหมายลูกโซ่ จดหมายเวียน หรือโฆษณาชวนเชื่อ – เช่นถ้าคุณได้รับจดหมายฉบับนี้ ให้ส่งไปหาเพื่อนอีก 15 คนแล้วคุณจะได้รับสิ่งนั้นสิ่งนี้ ตัวคุณเองจะกลายเป็นคนปล่อยเมล์ขยะเสียเอง
10. อย่าเปิดอ่านอีเมล์ หรือรับไฟล์จากคนที่คุณไม่รู้จัก – เพราะสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อาจทำให้เครื่องของคุณไม่สามารถใช้งานได้ก็เป็น ได้ หรือบางทีคุณอาจจะได้รับเมล์ขยะเพิ่มเป็นจำนวนมหาศาลโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย เพราะการที่คุณเปิดอ่านจะมีการส่งข้อมูลกลับไปยังผู้ส่ง Spam mail (เมล์ขยะ) ว่าอีเมล์ของคนที่เปิดอ่านยังมีการใช้งานอยู่ เพราะฉะนั้นคนส่งก็ยิ่งส่งมาเพิ่มให้อีก
11. อย่าหลงเข้าไปเล่นการพนันบน Internet – อาจทำให้คุณหมดตัวจากบัตรเครดิต หมดเนื้อหมดตัวโดยไม่รู้ตัว เว็บพวกนี้มันจะลวงให้ผู้เล่นเข้าไปเล่นโดยจะบอกว่าให้เงินทดลองเล่น เมื่อผู้เล่นติด ภายหลังคุณอาจจะเพิ่งคิดได้ว่า”โลกนี้คนเราก็แพ้เป็นเหมือนกัน และการหมดตัวเพียงชั่วเวลาแป๊บเดียวมันมีจริง” เรื่องบางเรื่องไม่ไกลเกินนิ้วมือที่คลิ๊กจริงๆ

ท้าย นี้ก็อยากจะฝากแง่คิดให้ทุกท่านเข้าใจว่า Internet คือสื่อประเภทหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานที่จะใช้ในทางที่ถูกหรือผิดตามวัตถุประสงค์ แต่ในโลกมืดของ Internet นั้นมีพวกที่ชอบ “หลอก” ซึ่งผมเองได้แบ่งคนพวกนี้ไว้เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ

1. หลอกๆ – คนพวกนี้ก็หลอกอีกฝ่ายว่าเป็นชาย เป็นนักศึกษา เป็นหญิงสาวน่ารัก(เพราะเอารูปชาวบ้านส่งให้ ไม่ใช่รูปตัวเอง) เป็นผู้มีความรู้ เป็นโน่นเป็นนี่ในโลกเสมือนจริง ฯลฯ เพื่อให้อีกฝ่ายนึงตายใจ หลงเชื่อ
2. หลอกลวง – เมื่อเหยื่อตายใจแล้วก็มักจะอ้างว่า ไม่มีเงินบ้าง โทรศัพท์โดนตัดบ้าง วันนี้ไม่มีเงินจ่ายค่าหอ จะเดินทางไปต่างจังหวัดบ้าง เพื่อนยืมเงินไปแล้วตัวเองไม่มีใช้บ้าง ฯ เพื่อขอร้องให้อีกฝ่าย(เหยื่อ)ทำการช่วยเหลือโดยการโอนเงิน หรือบางทีก็ขอให้ซื้อบัตรเติมเงินให้
3. หลอกล่อ – คนพวกนี้มักมีเป้าหมายคือ เรื่องเพศ อย่าไปไหนกับใครลำพังโดยไม่บอกใคร ขอเตือนนะครับ

ด้วยรัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น