วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer

การท่องอินเทอร์เนตในปัจจุบัน โปรแกรมหลักที่เครื่องคอมพิวเตอร์จำเป็นจะต้องมีก็คือ โปรแกรมประเภทบราวเซอร์ เพื่อใช้เรียกเว็บเพจจากเว็บไซต์ต่างๆ ขึ้นมาแสดงบนหน้าจอ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น Internet Explorer, Netscape, Mozilla ฯลฯ โดยที่ฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้น Internet Explorer หรือที่เราเรียกกันว่า IE เนื่องจากเป็นบราวเซอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแต่เวอร์ชันเก่าจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น windows XP หรือ Windows 2003 ก็จะมีบราวเซอร์ IE ติดมาด้วย

การท่องอินเทอร์เนตในปัจจุบัน โปรแกรมหลักที่เครื่องคอมพิวเตอร์จำเป็นจะต้องมีก็คือ โปรแกรมประเภทบราวเซอร์ เพื่อใช้เรียกเว็บเพจจากเว็บไซต์ต่างๆ ขึ้นมาแสดงบนหน้าจอ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น Internet Explorer, Netscape, Mozilla ฯลฯ โดยที่ฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้น Internet Explorer หรือที่เราเรียกกันว่า IE เนื่องจากเป็นบราวเซอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแต่เวอร์ชันเก่าจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น windows XP หรือ Windows 2003 ก็จะมีบราวเซอร์ IE ติดมาด้วย ปัจจุบันได้มีการพัฒนามาและอัพเกรดขึ้นมาหลายเวอร์ชัน ล่าสุดก็คือ เวอร์ชัน 6 ที่ยังมีช่องโหว่ต่างๆ มากมาย ที่ยังคงมีการพัฒนามาเรื่อยๆ เป็น 6.1 ~ 6.2


แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยังไม่อาจทำได้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้หลายๆ คน ซึ่งการปรับแต่งนั้นอาจทำได้เพียงแค่โหลด Skin เข้ามาตกแต่งให้มีสีสันมากขึ้น หน้าตาเปลี่ยนไปบ้าง และถ้าอยากจะทำอะไรที่นอกเหนือจากนั้น คุณอาจจะต้องใช้เครื่องมือจำพวก Tweak เพื่อมาปรับแต่ง แต่คอลัมน์ Internet Tips ฉบับนี้เราได้เตรียมวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถ แก้ไข และปรับแต่ง IE โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมจากภายนอกมาช่วยเลย ซึ่งอาศัยเพียงเทคนิคการแก้ไข registry ที่จะยกมา 12 วิธี ด้วยกัน ดังนี้

1. วิธีการซ่อนไอคอน IE บนหน้าต่างเดสก์ทอป

การแก้ไข Registry เพื่อซ่อนไอคอน IE
โดยปกติแล้วบนหน้าจอวินโดวส์จะมีไอคอนดีฟอลต์อยู่ ซึ่งจะไม่สามารถทำการ Delete ออกไปได้ วิธีการคือ ให้เปิดหน้าต่าง Registry แล้วทำการแก้ไขพาร์ท ของ User Key และ System Key โดยสร้าง DWORD value หรือแก้ไขค่าเดิมที่มีอยู่แล้ว ชื่อ "NoInternetIcon" แล้วเซตค่าภายในให้มี ค่าเป็น 1 เพื่อยกเลิกการทำงาน

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPolicies Explorer]
System Key: [HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPolicies Explorer]
Value Name: NoInternetIcon
Data Type: REG_DWORD (DWORD Value)
Value Data: (0 = disabled, 1 = enabled) ให้ใส่เลข 1 เข้าไป

Note: ไอคอน IE บนเดสก์ทอปจะหายไป แต่ยังสามารถสร้าง Short cut ขึ้นมาแทนใหม่ได้ถ้าต้องการ

2. วิธีการซ่อนโฟลเดอร์ Links จากเมนู Favorite

การแก้ registry เพื่อลบโฟลเดอร์ Favorite
Favorite มีไว้สำหรับเก็บลิงค์เว็บไซต์ต่างๆ ที่คุณชอบเข้าไป ซึ่งจะมีโฟลเดอร์อยู่ตัวหนึ่งที่ต่อให้ลบโฟลเดอร์นี้ไปแล้ว เมื่อเปิด IE ขึ้นมาใหม่ วินโดวส์จะสร้างโฟลเดอร์นี้ขึ้นมาอีก และวิธีที่จะลบโฟลเดอร์ Links ออกอย่างถาวรนั้น ให้ไปที่พาร์ทของ Userkey ในช่อง "LinksFolderName" โดยปล่อยให้เป็นค่าว่าง ๆ เอาไว้ เมื่อลบแล้วเปิด IE ขึ้นมาอีกครั้ง ก็จะไม่ปรากฏโฟลเดอร์ Links ให้เห็นอีกเลย

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftInternet ExplorerToolbar]
Value Name: LinksFolderName
Data Type: REG_SZ (String Value)

Note:วิธี การที่ง่ายกว่าคือสามารถเข้าไปที่ พาร์ทซึ่งเก็บเมนู Favorite เช่น C:windowsFavorite ในวินโดวส์ 9x หรือที่ C:Documents and SettingsUser_nameFavorites บนวินโดวส์ NT, 2000, xp แล้วทำการเลือกที่โฟลเดอร์ Links คลิกขวาเลือก Properties จากนั้นทำการเช็คบอกซ์ที่ค่าของ Hidden แล้วกด OK ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

3. วิธีการบล็อกไม่ให้ใช้ FTP ผ่านบราวเซอร์

การแก้ registry เพื่อบล็อกการทำงานของ FTP
การเข้าไปยังเว็บไซต์บางแห่งจะมีช่องทางให้เราสามารถดาวนด์โหลดข้อมูลผ่านโพ รโตคอลจำพวก FTP ซึ่งเราสามารถปิดไม่ให้ใช้งานได้ โดยไปที่ registry พาร์ท System Key จากนั้นให้ลบค่าที่อยู่ใน String ที่ชื่อ “ftp”

การตั้งค่าของ Registry
System Key: [HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindowsCurrentVersionURL Prefixes]
Value Name: ftp
Data Type: REG_SZ (String Value)
Value Data: ftp://

Note: ถ้าต้องการจะให้ทำงานอีกครั้ง ให้สร้าง String ขึ้นมาใหม่ที่ชื่อ “ftp” แล้วเซตค่าภายในให้เป็น “ftp://”

4. วิธีการซ่อนทูลบาร์ My picture ใน IE

การปรับแต่ง Registry เพื่อซ่อน Toolbar My picture
เมื่อเราเปิดรูปภาพด้วย Internet Explorer จะมีทูลบาร์ปรากฏขึ้นมา ให้คุณสามารถบันทึกภาพ พิมพ์ ส่งอีเมล์ หรือเปิดไปยังโฟลเดอร์ My picture โดยหากเราต้องการซ่อนทูลบาร์นี้ ไม่ให้ปรากฏขึ้นมาเมื่อนำเมาส์ไปชี้ที่ภาพแล้วละก็ (สามารถใช้ได้ตั้งแต่ IE 5.5 ขึ้นไป) ให้เข้าไปที่พาร์ทของ User Key จากนั้นสร้าง DWORD ให้เป็นชื่อ "MyPics_Hoverbar" แล้วใส่ค่าภายในดังรูป

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwarePoliciesMicrosoftInternet Explorer PhotoSupport]
Value Name: MyPics_Hoverbar
Data Type: REG_DWORD (DWORD Value)
Value Data: (0 = show bar, 1 = hide bar)

Note: หลังจากแก้ไขค่าเสร็จแล้ว เราต้อง Restart เครื่องก่อนจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ และสามารถเข้ามาแก้ไขค่าคืนได้ตามต้องการ

5. เปลี่ยนโปรแกรมดู Source ของเว็บเพจ

ปกติแล้ว ค่าดีฟอลต์ของ windows เมื่อเลือกฟังก์ชัน View -> Source จะเป็นการเรียกโปรแกรม Notepad ขึ้นมาเพื่อดู Source code ภายใน แต่ถ้าคุณมีโปรแกรมที่สามารถดู Source ได้หลายตัว ก็สามารถที่จะตั้งค่าใหม่ให้ชี้ไปยังโปรแกรมที่ต้องการได้ โดยอันดับแรกให้เปิด registry และไปที่พาร์ทของ System Key จากนั้นเซตพาร์ทของตัวโปรแกรม Editor ให้เป็นแบบ Full path และชี้ไปยังไฟล์ที่ต้องการให้รันขึ้นมาอ่าน Source code ของเว็บเพจ ซึ่งปกติจะเป็นไฟล์ .exe (ดีฟอลต์จะชี้ไปที่ C:windowsnotepad.exe )
การแก้พาร์ทเพื่อชี้ไปยังโปรแกรม Editor อื่นที่จะนำมาเปิด Source code

การตั้งค่าของ Registry
System Key: [HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftInternet Explorer View Source EditorEditor Name]
Value Name: (Default)
Data Type: REG_SZ (String Value)
Value Data: Path and Filename of Editor

Note: ให้ Restart เครื่องทุกหลังจากแก้ไขค่าเสร็จแล้ว

6. เปลี่ยนลิงก์ให้ Online Support ของ Internet Explorer

การแก้ไข URL ของ Online Support ในเมนู Help
ปกติที่หน้าต่างของ IE หากเราคลิ้กเลือกไปที่ "Online Support" จากเมนู Help วินโดวส์จะทำการเปิดบราวเซอร์แล้วลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ ซึ่งถ้าเราต้องการจะเปลี่ยน URL สำหรับลิงค์นี้ ให้ไปที่อื่นนั้นสามารถทำได้โดย เปิด Registry ขึ้นมา แล้วไปยังพาร์ทของ System Key จากนั้นให้สร้างค่า String ขึ้นมาหรือแก้ไขไฟล์เก่าที่มีอยู่ ในส่วนของ Value Data โดยให้เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ตามที่ต้องการ

การตั้งค่าของ Registry
System Key: [HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftInternet ExplorerHelp_Menu_Urls]
Value Name: Online_Support
Data Type: REG_SZ (String Value)
Value Data: Support URL

Note: หลังจากที่ปรับแต่งค่าแล้วอาจจะต้อง Log off ออกจากระบบหรือทำการ Restart เครื่องใหม่

7. เช็กการอัพเดตของ Internet Explorer

การแก้ไข registry ของ NoUpdateCheck
โดยปกติแล้ว ถ้าเป็น IE ตั้งแต่เวอร์ชัน 5 ขึ้นไป จะมีการคอยเช็คอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ถ้าเราต้องการกำหนดเอง ก็สามารถทำได้โดยไปที่ registry พาร์ทของ User key แล้วสร้าง DWORD หรือแก้ไขค่าเก่าที่ชื่อ "NoUpdateCheck" ให้มีค่าเป็น “1” แทน ซึ่งจะยกเลิกการอัพเดตอัตโนมัติ หรือใส่ค่าเป็น “0” ถ้าต้องการให้อัพเดตทำงาน

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftInternet ExplorerMain]
Value Name: NoUpdateCheck
Data Type: REG_DWORD (DWORD Value)
Value Data: (0 = enable checks, 1 = disable checks)

Note: Restart เครื่องหลังจากเปลี่ยนแปลงค่า

8. ควบคุม Error reporting

การแก้ไข Registry เพื่อควบคุม Error reporting
เมื่อมี error ที่เกิดขึ้นจากการพบข้อผิดพลาดของ Internet Explorer จะปรากฏหน้าต่าง Error reporting ขึ้นมา ซึ่งเราสามารถสั่งให้หน้าต่างดังกล่าวทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้ โดยสามารถใช้ได้ใน Internet Explorer เวอร์ชัน 6 ขึ้นไป อันดับแรกให้เข้าไปที่ Registry พาร์ทของ System Key จากนั้นสร้าง DWORD ตัวใหม่ขึ้นมา ชื่อ "IEWatsonDisabled" แล้วเซตให้มีค่าเป็น "1" และสร้าง DWORD ขึ้นมาอีกหนึ่งตัว ให้มีชื่อเป็น "IEWatsonEnabled" โดยเซตให้มีค่าเป็น "0"

การตั้งค่าของ Registry
System Key: [HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoftInternet ExplorerMain]
Value Name: IEWatsonDisabled, IEWatsonEnabled
Data Type: REG_DWORD (DWORD Value)

Note: ต้อง Restart เครื่องเพื่อให้ค่าที่ได้เซตไว้ทำงาน

9. ควบคุม Script Debugger

การแก้ไข registry เพื่อควบคุมการทำงานของ Script debugger
เมื่อ Internet Explorer ตรวจพบข้อผิดพลาดบนเว็บเพจ ซึ่งอาจจะเป็น source code บางตัวที่มีปัญหา โปรแกรมจะเรียกหน้าต่าง script debugger ขึ้นมาเพื่อรายงงานปัญหาให้ทราบ หากเราต้องการแก้ไขว่าจะให้ Script debugger นี้ทำงานหรือไม่นั้น ให้เข้าไปที่ Registry แล้วไปที่พาร์ทของ User key จากนั้นสร้าง String ขึ้นมาหรือแก้ไขค่าเก่าที่ชื่อ "Disable Script Debugger" และเซตให้มีค่าเป็น "yes" เพื่อปิดการใช้งาน script debugger หรือใส่ค่าเป็น "no" ถ้าต้องการให้มันทำงานเหมือนเดิม

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftInternet ExplorerMain]
Value Name: Disable Script Debugger
Data Type: REG_SZ (String Value)
Value Data: yes or no

Note: Script debugger ไม่สามารถที่จะแก้ไข Script ให้ถูกต้องได้ เพียงแต่รายงานผลให้ทราบ ซึ่งมักจะทำให้ผู้ใช้รำคาญ

10. ทำการ Separate Process ให้กับ Internet Explorer

ปกติในกรณีที่เราเปิดโปรแกรม Internet Explorer ขึ้นมาจะมีค่าเท่ากับ Process ที่เกิดขึ้นมา 1 instance และถ้าเปิดหน้าต่างเพิ่มขึ้นก็ยังคงมีเพียง 1 instance เท่านั้น แต่การแก้ไขนี้จะช่วยแยก Process ออกจากกันทุกครั้งที่มีการเปิดหน้าต่าง IE ขึ้นมา วิธีการก็คือ ให้ไปที่ Registry เข้าไปยังพาร์ทของ User Key จากนั้นสร้าง String ขึ้นมาหรือแก้ไขค่าเก่าที่มีอยู่ ที่ชื่อ "BrowseNewProcess" แล้วเซตค่าภายในตามต้องการ ซึ่งถ้าเป็น “Yes” หมายถึงสั่งให้มันทำงาน (enabled ) และ “No” คือปิดการทำงาน (disabled )
เปลี่ยนค่า BrowseNewProcess ให้กับ IE

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionExplorer BrowseNewProcess]
Value Name: BrowseNewProcess
Data Type: REG_SZ (String Value)
Value Data: Yes or No

Note: โดย ปกติแล้ว ค่าภายใน BrowseNewProcess จะถูก enable หรือ disable โดยอัตโนมัตินั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของ RAM ที่ติดตั้งอยู่ภายในเครื่อง ถ้าหากเครื่องคอมพิวเตอร์มี RAM น้อยกว่า 32 MB ก็จะถูก disable เอาไว้ไม่ให้ทำงาน แต่ถ้ามี RAM มากกว่าหรือเท่ากับ 32 MB ก็จะถูกเซตค่าเป็น enable คือให้ทำงาน

11. กำหนดพาร์ทสำหรับดาวโหลดไฟล์ให้ IE

การเปลี่ยนพาร์ทสำหรับเก็บไฟล์ดาวโหลดจาก IE
การตั้งค่านี้จะช่วยกำหนดพาร์ทที่ใช้เก็บไฟล์ซึ่งดาวโหลดผ่านทาง Internet Explorer ได้ตามต้องการ วิธีก็คือ ให้ไปที่พาร์ท User Key แล้วสร้าง String ขึ้นมา หรือแก้ไฟล์เก่าที่ชื่อ "Download Directory" จากนั้นเซตค่าภายในให้ชี้ไปยังพาร์ทที่ต้องการ จากตัวอย่างคือ “c:My files “

การตั้งค่าของ Registry
User Key: [HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftInternet Explorer]
Value Name: Download Directory
Data Type: REG_SZ (String Value)
Value Data: Qualified Directory

Note: โฟลเดอร์ที่จะกำหนดค่าใน Download Directory ควรจะเป็นโฟลเดอร์ที่มีอยู่จริง

12. Auto complete โหมดเพื่อการพิมพ์ ใน IE

เซตค่าใน Append Completion เป็น yes
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วจะทำให้มีคำแนะนำปรากฏ ขึ้น สำหรับข้อความที่คุณกำลังพิมพ์ถ้ามีประโยคหรือคำที่คล้ายคลึงกัน คุณสามารถใช้ตัวช่วยที่ปรากฏขึ้นได้เหมือนกับไมโครซอฟท์เวิร์ด ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ และช่วยให้คุณเติมเต็มประโยคได้อย่างรวดเร็ว สำหรับการตั้งค่าคือเปิด registry แล้วไปที่พาร์ท User key และสร้าง String ขึ้นมาหรือแก้ไขค่าเก่าที่ชื่อ "Append Completion" จากนั้นเซตค่าภายในเป็น"yes" เพื่อให้โหมด auto complete ทำงาน แต่ถ้าพิมพ์ "no" จะแสดงเฉพาะ drop-down list

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น